ต่อไป »

[หมูหวาน]

 เราเป็นคนหนึ่งที่เคยสอบมาแล้วแต่คะแนนการฟังก็ยังไม่พัฒนา ทั้งที่ทำใน CAM 1-6 มาก็แล้ว ลงเรียนก็เรียนมาแล้ว แต่ทำไมถูกไม่เคยถึง 20 ข้อเลยสักที ขอให้เพื่อนที่มีประสบการณ์ที่เคยสอบแล้วได้คะแนนน้อย แต่ฝึกฝนจนได้คะแนนเยอะมีบ้างไหม ช่วยบอกวิธีเพิ่มคะแนนของเพื่อนหน่อยๆ เราขอแค่ได้ถึง 26 ก็ดีใจมากแล้ว หวังว่าเพื่อนจะใจดีมาช่วยแชร์บอกประสบการทริกดีๆที่จะเพิ่มคะแนนกันนะ

[Mr. Grey Eyes]

ของผมนี่ใช้เวลานานมากเลยครับ
เพราะเป็นคนอ่อนทักษะการฟังมากๆ
เพราะตอนเรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัย
ไม่เคยเรียนกับอ.ที่เป็นเจ้าของภาษาเลย
หนังก็ไม่ค่อยได้ดู เพลงสากลก็ไม่ได้ฟัง
การฟังเลยแย่อย่างเห็นๆ

(ผมเห็นเพื่อนที่เก่ง Listening
เค้าบอกว่าเค้าฝึกจากการฟังเพลงสากลและดูหนัง
ผมว่ามันก็น่าจะมีส่วนเหมือนกันนะ)

ผมเคยสอบ Toefl (CBT) ได้ 8 คะแนนเต็ม 30 เองครับ
คือถือว่าการฟังเข้าขั้นเลวร้ายมาก แทบจะฟังไม่ออกเลยก็ว่าได้
8 คะแนนก็มาจากการเดาเกือบล้วนๆ

แล้วหลังจากนั้น ผมก็มาเรียนคอร์ส IELTS
ก็รู้สึกว่าเริ่มฟังดีขึ้น (หมายถึงดีขึ้นจากเมื่อก่อนที่มันแย่มากๆ)
เพราะได้เรียนกับอ.ที่เป็นเจ้าของภาษา
ผมว่าการที่ผมไปนั่งเรียน แล้วฟังๆอ.พูด รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง
ก็เหมือนเราได้ซึมซับภาษาอังกฤษไปทีละนิด
แต่เวลาฝึกทำแบบฝึกหัด IELTS ก็ไม่เคยได้คะแนนเกิน 20 เลยครับ
แต่ตอนนั้น ผมก็ดีใจแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันพัฒนาจากตอนสอบ Toefl

แล้วพอผมไปสอบ IELTS ครั้งแรก ก็ได้ Listening 5 ครับ
ครั้งที่สอง(ห่างจากครั้งแรกประมาณหนึ่งเดือน)
ได้ 4.5 น้อยกว่าครั้งแรกอีก

หลังจากนั้น ผมก็หยุดเรื่อง IELTS ไปหลายเดือนเหมือนกัน
แล้วก็มาเรียนคอร์ส IELTS ใหม่
ก็เรียนกับฝรั่งเหมือนเดิม แล้วก็ฝึกฟังจาก Cambridge 1-6
ทั้งฝึกฟังแบบตั้งใจฟัง และทั้งเปิดฟังให้มันผ่านหูเฉยๆ
(เช่น เวลาเราทำงานกับคอมพิวเตอร์ ก็เปิดไฟล์เสียง IELTS ไปด้วย
คือไม่ได้ตั้งใจฟังเหมือนตอนฝึกทำข้อสอบ แต่ก็ให้มันผ่านหู
เพื่อให้คุ้นเคย)
การฟังก็พัฒนาขึ้นอีกนิดครับ พอสอบใหม่ก็ได้ Listening 6.0

แต่ที่พัฒนาขึ้นมากจริงๆ ก็ตอนมาอยู่ต่างประเทศครับ
เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นเจ้าของภาษาจริงๆ
สอบ IELTS ใหม่ หลังจากมาอยู่ 1 เดือนครึ่ง
ก็ได้ Listening 7.0

ทักษะการฟังมันพัฒนากันได้จริงๆครับ ดูผมเป็นตัวอย่างก็ได้
แต่ต้องอาศัยเวลาและการฝึกฝน

ปล. เล่ามาซะยาว สรุปวิธีพัฒนาการฟังของผมก็คือ
ฟังจากเจ้าของภาษาโดยตรง
แล้วก็ฝึกฟังจากไฟล์เสียงภาษาอังกฤษครับ

[หมูหวาน]

ของผมนี่ใช้เวลานานมากเลยครับ
เพราะเป็นคนอ่อนทักษะการฟังมากๆ
เพราะตอนเรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัย
ไม่เคยเรียนกับอ.ที่เป็นเจ้าของภาษาเลย
หนังก็ไม่ค่อยได้ดู เพลงสากลก็ไม่ได้ฟัง
การฟังเลยแย่อย่างเห็นๆ

(ผมเห็นเพื่อนที่เก่ง Listening
เค้าบอกว่าเค้าฝึกจากการฟังเพลงสากลและดูหนัง
ผมว่ามันก็น่าจะมีส่วนเหมือนกันนะ)

ผมเคยสอบ Toefl (CBT) ได้ 8 คะแนนเต็ม 30 เองครับ
คือถือว่าการฟังเข้าขั้นเลวร้ายมาก แทบจะฟังไม่ออกเลยก็ว่าได้
8 คะแนนก็มาจากการเดาเกือบล้วนๆ

แล้วหลังจากนั้น ผมก็มาเรียนคอร์ส IELTS
ก็รู้สึกว่าเริ่มฟังดีขึ้น (หมายถึงดีขึ้นจากเมื่อก่อนที่มันแย่มากๆ)
เพราะได้เรียนกับอ.ที่เป็นเจ้าของภาษา
ผมว่าการที่ผมไปนั่งเรียน แล้วฟังๆอ.พูด รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง
ก็เหมือนเราได้ซึมซับภาษาอังกฤษไปทีละนิด
แต่เวลาฝึกทำแบบฝึกหัด IELTS ก็ไม่เคยได้คะแนนเกิน 20 เลยครับ
แต่ตอนนั้น ผมก็ดีใจแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันพัฒนาจากตอนสอบ Toefl

แล้วพอผมไปสอบ IELTS ครั้งแรก ก็ได้ Listening 5 ครับ
ครั้งที่สอง(ห่างจากครั้งแรกประมาณหนึ่งเดือน)
ได้ 4.5 น้อยกว่าครั้งแรกอีก

หลังจากนั้น ผมก็หยุดเรื่อง IELTS ไปหลายเดือนเหมือนกัน
แล้วก็มาเรียนคอร์ส IELTS ใหม่
ก็เรียนกับฝรั่งเหมือนเดิม แล้วก็ฝึกฟังจาก Cambridge 1-6
ทั้งฝึกฟังแบบตั้งใจฟัง และทั้งเปิดฟังให้มันผ่านหูเฉยๆ
(เช่น เวลาเราทำงานกับคอมพิวเตอร์ ก็เปิดไฟล์เสียง IELTS ไปด้วย
คือไม่ได้ตั้งใจฟังเหมือนตอนฝึกทำข้อสอบ แต่ก็ให้มันผ่านหู
เพื่อให้คุ้นเคย)
การฟังก็พัฒนาขึ้นอีกนิดครับ พอสอบใหม่ก็ได้ Listening 6.0

แต่ที่พัฒนาขึ้นมากจริงๆ ก็ตอนมาอยู่ต่างประเทศครับ
เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นเจ้าของภาษาจริงๆ
สอบ IELTS ใหม่ หลังจากมาอยู่ 1 เดือนครึ่ง
ก็ได้ Listening 7.0

ทักษะการฟังมันพัฒนากันได้จริงๆครับ ดูผมเป็นตัวอย่างก็ได้
แต่ต้องอาศัยเวลาและการฝึกฝน

ปล. เล่ามาซะยาว สรุปวิธีพัฒนาการฟังของผมก็คือ
ฟังจากเจ้าของภาษาโดยตรง
แล้วก็ฝึกฟังจากไฟล์เสียงภาษาอังกฤษครับ

ขอบๆคุณมากๆนะค่ะคุณ Mr. Grey Eyes เนี่ยแหละเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ดีใจมากที่คุณตอบค่ะ เพราะคุณถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการสอบ IELTS จะลองทำตามที่คุณแนะนำนะค่ะ

[leo]

ขอยืนยันครับ ฟังจากเจ้าของภาษาดีที่สุด ตอนไปอยู่อังกฤษ ไปแรกๆ ก็ฟังไม่รู้เรื่องเลย สำเนียงต่างจากเมกันพอสมควร อยู่ไปสักเดือนเริ่มชิน ทีนี้ก็๋พูดโต้ตอบกันมันส์เลย ต้องไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่ภาษาอังกฤษครับ เวิกสุด อย่ามัวแต่จับกลุ่มกะคนไทย ไม่ได้พัฒนาภาษาแน่

[Blend]

 อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับ IELTS เท่าไหร่ แต่ก็ช่วยได้นะครับ ลองไป load พวก file เสียงจาก bbclearningenglish ในส่วนของ 6 minutes English มาฟัง มันจะมี topic ต่างๆให้เราฟังเป็นสำเนียงอังกฤษแท้ๆเลย แถมเรื่องที่เค้าเอามาพูด เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยากนิดนึง แต่ก็ทำให้เราได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆเพิ่มด้วย

ลองไปโหลดมาฟังดูนะครับ
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/radio/specials/144_6minute/

[หมูหวาน]

 ขอบคุณมากๆที่ทุกคน ช่วยมาแนะนำวิธีดีๆให้ จะลองอีกสักทีดูค่ะอาจจะสมหวังบ้าง แต่หากเพื่อนๆคนไหนที่เข้ามาอ่านกระทู้แล้วมีคำแนะนำดีๆอีก ก็เชิญโพสต์ไว้นะค่ะ เพราะเชื่อว่ามีคนอีกมากที่มีปัญหาหาอย่างเราเหมือนกัน ขอบคุณมากนะค่ะทุกๆคน

[Sand]

เราใช้วิธีเปิดฟังผ่านหูบ่อยๆๆอ่ะคะ
อย่างฟัง bbc อันนี้อาจฟังไม่ออกบ้าง
แต่ฟังแล้วก้อตั้งใจฟังบ้างว่าพูดเรื่องอะไร
อย่างน้อยก้อให้จับใจความให้ได้

หรือไม่ก้อเอาไฟล์cambridge ที่เราทำไปแล้ว
กลับมาเปิดฟังวนๆๆไปเรื่อยๆอ่ะคะ
อันนี้จะง่ายขึ้นมาหน่อย
เพราะในข้อสอบ เค้าจะพูดไม่เร็วและพูดชัดก่าใน bbc
จะได้มีกำลังใจมากขึ้นคะ

[จส]

พอดี เพิ่งได้ผลสอบมา เลยขอมาร่วมออกความเห็นแล้วกันนะครับ
ผมไม่ได้เรียนที่ไหน ใช้ฝึกเองครับ เป็นเด็กต่างจังหวัดน่ะครับ
ที่ผ่านมา ผมใช้การดูดีวีดี รอบแรก sub Thai ก่อน เอาใจความ รอบสองsub Eng แล้วพูดตามจังหวะในหนัง จะทำให้เราคุ้นรูปประโยค และจังหวะการรวบคำ ได้ยินศัพท์ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ดูเฉพาะฉากที่เป็นเรื่องราวทั่วๆ ไป ในร้านค้า อาหาร ร้านหนังสือ ก็ได้
ช่วย section 1  ได้ครับ
section 3 กับ 4 จะเกี่ยวกับการเรียนในมหาลัย เราจึงควรต้องรู้สไตล์การเรียนในต่างประเทศด้วย จะได้จินตนาการตามที่ได้ยินได้
ดู lecture ใน youtube ก็ดีนะครับ แต่เลือก class ที่ prof เป็นเจ้าของภาษาสอนนะครับ จะได้คุ้นสำนวน
ที่สำคัญ ให้เวลากับมันครับ ให้มันซึมเข้าไป แล้วเราก็จะได้คะแนนที่น่าพอใจครับ
ก็เป็นวิธีส่วนตัวน่ะครับ มาแชร์กันครับ

[เจษฎา]

ของผมเองมีวิธีการคล้ายกับคุณ จส เลยครับ
เพียงแต่ผมเน้นรอบแรกดู sub eng ก่อน เพื่อให้เกิดการเดาศัพท์ และสามารถจับเนื้อหาที่เราฟังไม่ออก
มาเทียบกับ sub title ว่าคำนั้นคืออะไรและจำคำเหล่านั้นไว้ เมื่อมาดูรอบสองจะดูเป็น sub thai
และดูความหมายของคำเหล่านั้นว่าเมื่อแปลในประโยคแล้ว ควรจะมีความหมายอย่างไรครับ
  มาช่วยแชร์เพิ่มอีกคนครับ

[loveuk]

ฝึกทำบ่อยๆคับ ไม่ยากหรอก ผมเตรียมตัว 1 week ยังได้ 7 เลย

[tamil1122]

รับทราบครับ