ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ค้นหา

 
การค้นหาขั้นสูง

866 กระทู้ ใน 377 หัวข้อ- โดย 1020 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: ohm555
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อีก 2 อาทิตย์ สอบ ielts แนะนำด้วยค่ะ  (อ่าน 27816 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
muffy
BAND 4.0
*

น้ำใจ: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« เมื่อ: กันยายน 20, 2009, 01:44:22 PM »

  สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอขอบคุณนะค่ะที่เข้ามาอ่านกระทู้ ^^  พอดีว่าจะสอบวันที่ 8 นี้ที่เชียงใหม่ ยังไม่ได้สมัครเลย เลยจองไว้เพราะเขาบอกยังไม่เต็มค่ะ แล้วทีนี้เนี้ย ต้องการ 5.0-5.5 ค่ะ พอดีจะต่ออนุปริญญาที่สิงคโปร์  เขาให้ยื่น 1 เกรด แต่เกรดไม่ถึงค่ะ เลยจะสู้ที่ ielts 2 ielts จริงๆแล้วเขาไม่ได้บอกไว้หรอกค่ะ แต่เขาให้ประเทศอื่นยื่นแต่เราไม่สนค่ะจะยื่น เพราะอยากเรียนมากๆๆ
เรามีปัญหาคือ  1. listening ถ้ามาแบบ อ่านยาวๆๆ แบบร่ายยาวๆ ไม่ใช่สนทนา อะค่ะ จะอึ้ง ชอ็คแปลไม่ออก
2. reading ศัพท์ไม่ค่อยได้ค่ะ
3. writing  อยู่ที่ vocab อีกแล้ว
4. speaking อย่างเดียวค่ะกลัวฟังเขาไม่รู้เรื่อง + ไม่รู้ว่าจะถามอะไร

เคยเรียน อังกฤษที่ british นะค่ะ เรียนคอร์ส pre intermediate จบไป 1 level เหลืออีก 4 ค่ะ แต่ต้องออกก่อนเพราะว่าตอนนี้ ม.6 แล้ว
ต้อง admission อีก

*ช่วยแนะนำทีนะค่ะว่าควรทำอย่างไร กับคนที่ไม่เก่งสักเท่าไหร่แบบนี้แต่อยากได้ 5 ค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ ขอบคุณค่ะ  -/\-
บันทึกการเข้า
~~ ขนม ลัน ล้า ~~
BAND 4.0
*

น้ำใจ: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 21, 2009, 11:59:01 AM »

เหลือเวลาอีกแค่ 2 อาทิตย์ ถึงตอนนี้คงจะฝึกเพิ่มเติมได้ไม่มากล่ะค่ะ
งั้นขนม ขออนุญาตแนะนำในแต่ละส่วน ในเรื่องเทคนิคที่ควรจะฝึกในเวลาที่จำกัดละกันนะคะ
เพราะจริงๆ IELTS 5.0 ไม่ได้ยากเลยค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของคนสอบด้วยน่ะค่ะ
ปล. ข้อมูลที่เอามาแนะนำ ต้องขอขอบคุณเว็บนี้ และเว็บต่างๆที่กรุณาให้ความรู้เป็นวิทยาทานค่ะ

ส่วน listening นะคะ

ข้อสอบการฟังให้เวลาฟัง 30 นาที และเขียนตอบลงใน Answer Sheet อีก 10 นาที่ รวม 40 นาที ข้อสอบจะมี ทั้งหมด 4 ตอน 40 ข้อ ซึ่งในแต่ละตอนจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
+ ตอนที่ 1 โดยส่วนใหญ่เป็นบทสนทนาระหว่าง 2 คน ในเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น การนัดหมาย การจอง การสมัคร >> คำตอบส่วนใหญ่ คือ ชื่อ ที่อยู่ (สถานที่) เบอร์โทรฯ อีเมล์

+ ตอนที่ 2 โดยส่วนใหญ่เป็นการพูดคนเดียวเกี่ยวกับ ข่าว สถานการณ์ ประเด็นต่าง ๆ

+ ตอนที่ 3 โดยส่วนใหญ่เป็นการสนทนา 2-4 คน เป็นเรื่องราวทางวิชาการหรือภาวะเหตุการณ์ต่าง ๆ หรืองานวิจัย

+ ตอนที่ 4 โดยส่วนใหญ่เป็นการพูดคนเดียวเชิงวิชาการเป็นลักษณะของการบรรยาย

ข้อแนะนำนะคะ

+ ฟัง (อ่าน) และทำความเข้าใจคำสั่งให้ชัดเจนว่าสั่งหรือมีข้อห้ามอะไร เช่น ห้ามเขียนเกิน 3 คน, ตอบเฉพาะตัวเลข

+ พยายามอ่านคำถามก่อน > และหา Keyword + ขีดเส้นใต้ Keyword ไว้ > และเดาคำตอบไว้ล่วงหน้า โดยใช้เวลา 30 วินาที่ ก่อนฟังให้เกิดประโยชน์ที่สุด

+ ขณะฟังให้นึกถึงสถานการณ์จริง

+ ชื่อคน ชื่อเมือง ควรเขียนตัวพิมพ์ใหญ่ หรือดูตามตัวอย่างที่มีมาให้ค่ะ

+ จับเสียงการเน้นคำของเรื่องราว โดยมากคำตอบจะเป็นการเน้นเสียงที่คำนั้น ๆ

+ ระหว่างฟังให้จดไปเรื่อย ๆ ใน keyword สำคัญ ๆ (เผื่อเอาไว้ตอบค่ะ)

+ อ่านโจทย์และสังเกตว่าคำตอบจะมาจากผู้พูดคนไหน (สนทนา) ให้ตั้งใจฟังให้มาก ๆ ขึ้น

+ สะกดให้ถูกต้อง (ถ้าเทปสะกดให้)

+ ถ้าทำไม่ทันให้ทำข้อต่อไปเลยไม่ต้องย้อนกลับมาคิดข้อที่ผ่านมา

+ เขียนตอบต้องเขียนให้อ่านออก (และต้องสะกดให้ถูกด้วย)

+ ควรเขียนตอบสไตล์ อังกฤษ เช่น Colour, 1st May, 2008 จะดีกว่าการตอบแบบ America

+ ให้ตอบทุกคำตอบ คิดไม่ออกให้ใช้ข้อมูลมาจากข้อความใกล้เคียง

+ ระหว่างที่ให้ตอบในโจทย์ และใช้ 10 นาทีในการย้ายคำตอบไป answer sheet อย่างคุ้มค่า

+ ถ้าตอบไม่ได้จริงๆ ให้ เดา เดา เดา อย่างว่างไว้เป็นอันขาด (เสียดาย)

+ให้มีสติและสมาธิ ตลอดเวลาการฟังและตอบ อย่าเหม่อ จะหลุดยาว

+ ให้อ่านศัพท์ Synonyms มาด้วย เพราะบางครั้งโจทย์กับคำตอบ คำศัพท์ต่างกันแต่ความหมายเหมือนกัน)

+ ฟังให้ดี ๆ ได้ยินแล้วอย่าตอบทันที ให้ mark เอาไว้ก่อนเพราะอาจจะมีคำตอบที่ถูก ตามมา (บ่อยมาก)

+ ให้ระมัดเรื่องเติม s ด้วย สำหรับข้อนี้ให้ดูตาม context ซึ่งอาจจะเป็น Subject หรือ Noun ซึ่งต้องสอดคล้องกัน

ส่วน Reading นะคะ

เรื่องที่อ่านประกอบไปด้วย 3 เรื่องด้วยกันค่ะ (3 section) ทั้งหมดมี 40 ข้อ ให้เวลาก็ 60 นาที (1 ตอน / 20 นาที) ซึ่งจะเริ่มจากเรื่องง่ายไปเรื่องยาก ลักษณะของข้อสอบจะเป็นเรื่องที่คัดลอกมาจาก บทความทางวิชาการ นิตยสาร วารสาร ตำราเรียน หนังสือพิมพ์

ข้อแนะนำนะคะ
+ แบ่งเวลาให้เหมาะสม 1 เรื่อง ใช้เวลา 20 นาที (เท่านั้น)

+ ตอนทำให้ทำในกระดาษโจทย์ก่อนแล้วใช้เวลาอีก 2 นาที ลอกคำตอบใส่ answer sheet ค่ะ (18 นาทีทำ และ 2 นาทีลอกคำตอบ) เพื่อเป็นการทบทวนการตอบด้วยค่ะ

+ อ่านคำสั่งให้เข้าใจว่าสั่งว่าอย่างไร แต่ละเรื่องอาจไม่เหมือนกันในเรื่องของข้อกำหนดในการตอบ

+ อ่านชื่อเรื่องเพื่อ Scope ความคิด

+ อ่านโจทย์ก่อนแล้วขีดเส้นใต้คำสำคัญหรือ key word เพื่อให้รู้ว่าอะไรคือ สิ่งที่ต้องการหาในเนื้อเรื่อง

+ key word มักจะเป็นคำที่บอก ชื่อ สถานที่ เวลา วันเดือนปี

+ หาคำตอบจากเนื้อเรื่องอย่างรวดเร็วด้วยการใช้ key word และ Symonyms (บางครั้ง key word อาจเป็นคำต่างแต่ความหมายเดียวกันค่ะ)

+ อย่าอ่านเนื้อเรื้องทั้งหมด (ไม่ต้องเข้าใจหมด) อ่านกลับไปกลับมาได้

+ อ่านแบบ Skim เพื่อหา key word เมื่อเจอ key word ให้อ่าน scan เพื่อหาคำตอบ

+ พยายามใช้ปากกาช่วยอ่านลดการมึน (มึนจริง ๆ ค่ะ เนื้อเรื่องก็เยอะ เวลาก็น้อย .... สู้ )

+ ต้องสรุป Main Idea ของแต่ละย่อหน้าให้ได้

+ โจทย์จะถามตามลำดับเนื้อเรื่อง ไม่ถามกลับไปกลับมา ทำให้เราหาคำตอบได้ง่ายขึ้นค่ะ

+ คำตอบจะมาจากเนื้อเรื่องเท่านั้น อย่าเอามาจากที่อื่น (เพราะเขียนตอบจะผิดได้)

+ ข้อยากไว้ทำทีหลัง (อาจตัด chioce ไปหรือ เลือกข้อที่น่าสนใจไว้) แล้วกลับมาทำ

+ อย่าปล่อยว่างไว้ ให้ตอบทุกข้อ

+ ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ให้ เดา เดา และ เดา ค่ะ

+ ต้องมีสมาธิ สติ ตลอดระยะเวลาการทำ

+ ควรอ่านหนังสือพิม ฟังข่าว และดูหนัง เป็นภาคอังกฤษ

+ จำศัพท์ไว้เยอะ ๆ (เจอที่ไหนก็จดและหาคำแปลเอาไว้) อาจได้ใช้แน่ ๆ

ส่วน Writing นะคะ

Writing ก็เป็นอีก part หนึ่งที่ปราบเซียน ค่ะ สำหรับ part นี้ประกอบไปด้วย 2 หัวข้อในการเขียน คือ

+ การอธิบาย graph, chart, table or picture โดยให้เขียนเป็นรูปแบบรายงานไม่ต้องแสดงความคิดเห็น โดยให้มีการเปรียบเทียบความเหมือนหรือแตกต่างของตัวเลขที่แสดง หรือลักษณะที่แตกต่างอออกไป (20 นาที)

+ การเขียน Essay ถึงทัศนะคติของหัวข้อที่ได้รับ โดยใช้ประสบการณ์หรือความรู้ในได้ (40 นาที)


ข้อแนะนำนะคะ
   
 + แบ่งเวลาในการเขียนให้เหมาะสม

- เรื่องแรกอธิบายกราฟ 20 นาที แบ่งเป็น 5 นาที สำหรับวางแผน และ 13 นาที สำหรับเขียน ส่วน 2 นาทีสำหรับตรวจสอบ (สำคัญมั่ก ๆ ตรวจสอบน่ะค่ะ เพราะอาจจะเสียคะแนนไปกับเรื่องง่าย ๆ เช่น spelling ค่ะ)

- เรืองที่สองเขียน Essay แสดงทัศนคติ แบ่งเป็น 10 นาที สำหรับวางแผน และ 28 นาที สำหรับเขียน ส่วน 2 นาที สำหรับตรวจสอบ

    + อ่านโจทย์ให้รอบคอบ และขีดเส้นใต้คำสำคัญไว้ เพื่อย้ำว่ากำลังเขียนถึงเรื่องอะไร

    +การอธิบายกราฟ


    - อย่าพยายามเขียนทุกอย่างในกราฟ ให้เขียนแสดงความแตกต่าง น้อย
    สุดมากสุด การเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
    - ใช้คำเชื่อมในการบอกประเด็น (เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่จะทำต่อไปคืออะไร)
    - แนวทางเดียวกัน : In addition, Furthermore, Besides
    - แตกต่างกัน : Alternatively, Whereas, On the other hand,
    In comparison, However
    - ทัศนคติ : In my opinion, personally speaking
    - แสดงเหตุผล : Because, Therefore, As a result
    - เวลา,ลำดับ : Firstly, After that, Finally, Since
    - ยกตัวอย่าง : For example, For instance, In other word ,
    such as
    - การใช้ Tense อย่างถูกต้อง (ส่วนใหญ่ present กะ past)
    - พยายามใช้คำศัพท์ให้หลากหลายเพื่อแสดงการเพิ่มขึ้นและลดลง
    - Up : rise, increase, growth, reach a peak
    - Down : fall, drop, decrease, decline, reach a bottom
    - No change : remain the same, remain stable
    - How much : rapid, sharp, slight, slow, gradual, steady
    constant
    - Figures : just under, nearly,just over,over
    - นำคำถามมาเรียบเรียงใหม่เป็น Intro
    - อย่าวิเคราะห์กราฟ ให้บรรยายหรือรายงาน
    - เขียนให้มากว่าที่กำหนดเสมอ อย่าน้อยกว่าเป็นอันขาด ค่ะ
    - เขียนบ่อย ๆ สร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง

ส่วน Speaking นะคะ

Speaking มีคติประจำว่า "ทำตัวให้เหมือนคนพูดเก่ง พูดให้มากที่สุด เท่าที่จะมาได้ อย่าหยุด ถ้าผู้สัมภาษณ์ไม่บอกให้หยุด" แค่นี้ก็ได้ Band สูง ๆ แล้วค่ะ

ส่วนของการพูดประกอบด้วย 3 ส่วนย่อย ใช้เวลา ประมาณ 15 นาที
1. การแนะนำตัวและสัมภาษณ์ (4-5 นาที)
2. การพูดจากหัวข้อที่ได้รับ (เตรียม 1 นาที พูด 2 นาที)
3. การสัมภาษณ์ หัวข้อต่อเนื่องจากข้อ 2 (4-5 นาที)

ข้อแนะนำนะคะ

+ ตอบให้ยาวที่สุดเท่าที่จะยาวได้
+ อย่าถามผู้สัมภาษณ์กลับ
+ ถามชื่อให้ตอบเฉพาะชื่อกับนามสกุล (ไม่ต้องใส่ My name is...)
+ ถามว่ามาจากไหน ตอบว่า Thailand
+ พูดว่า What's do you mean exactly? เมื่อไม่เข้าใจคำถาม
+ เมื่อไม่ได้ยินให้พูดว่า Sorry เท่านั้น ไม่พูด Pardon
+ ใช้เวลาในการเตรียมพูด 2 นาทีอย่างคุ้มค่า (เขียนเป็น Mild map หรือ Topic list)
+ สบตาผู้สัมภาษณ์ และอ่านริมฝีปาก
+ ยิ้มแย้มแจ่มใส
+ พูดและคิดเป็นภาษาอังกฤษ อย่างสม่ำเสมอ
+ห้ามหยุดพูดไปเลยเด็ดขาดค่ะ ขอให้คิดได้ แต่ไม่ควรเกิน 5 วินาที
ถ้าคิดไม่ออกแนะนำว่าให้แต่งเรื่องขึ้นมาเลยค่ะ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องที่ Examiner รู็อยู่แล้วนะคะ
อย่างเรื่องประวัติศาสตร์ หรือ วัฒนธรรมนี่แต่งไม่ได้นะคะ

การประเมินการพูด :

+ ความคล่องแคล่วและประติดประต่อ : พูดไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด และมีการเชื่อมโยงที่ดี
+ การเลือกใช้ศัพท์ : เลือกศัพท์หลากหลาย และยาก
+ การเลือกใช้ไวยากรณ์และความถูกต้อง : ใช้ประโยชน์ซับซ้อนแต่เข้าใจง่าย
+ การออกเสียง : ออกเสียงอย่างเป็นธรรมชาติ เน้นสูงต่ำให้ถูกต้อง และชัดเจน เช่น Computer เน้นตรง pu นะค่ะ

การทำแบบฝึกหัดและเอาตัวเองเข้าไปในสภาพแวดล้อมของการใช้ภาษามาก ๆ จะเป็นผลดีต่อการสอบมากเลยค่ะ
ยังไงก็ขอให้โชคดีในการสอบค่ะ
* ขนม *

ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ LinkbooM - http://linkboom.bloggang.com  มาณ.โอกาสนี้ค่ะ
บันทึกการเข้า
themk3138
BAND 4.0
*

น้ำใจ: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2012, 11:49:00 AM »

อ่านกันเพลินละคับ ... จะเยอะไปไหน  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
butnotforme
BAND 4.0
*

น้ำใจ: +1/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2012, 11:46:45 PM »

writing ให้ไปหัดที่ ลอง search google ดู หาคำว่า simon ielts เวลาเขียน writing ให้พยายาม เขียนหลายๆ tense เช่นถ้าเค้าถามเรื่อง traffic congestion ให้ยกตัวอย่าง กทม.ก็ได้ เขียนว่า before the bts was built,I had always spent almost 2  hours on the street  (แค่นี้ก็ได้ 2 tense + present simple เป็น 3 แล้ว) กับคำยาวๆเข้าไว้ คำเชื่อมก็ต้องหัดใช้ แต่ถ้าไม่รู้จะเชื่อมยังไง อย่าเดา ให้ขึ้นประโยคใหม่เลย เขียนมั่วๆไป อ่านไม่รู้เรื่องโดนตัดคะแนน

listening ให้หาข้อสอบ ielts cambridge มาหัดทำ เอาเล่ม 5-8 ห้ามเอาของ oxford มาทำเพราะมันยากกว่าข่้อสอบจริง สำหรับหนังสือ ไปหาเอาที่ศูนย์หนังสือ จุฬา หรือ ลงไปใต้ถุนตึกก็ได้ สำหรับ audio clip ลอง search net เอา

reading text ยากมาก พูดจริงๆว่าไม่มีทาง พัฒนาได้ในระยะเวลาสั้นๆ

speaking จริงๆ มันเป็นคำถามเดิมๆนะ ลองหาข้อมูลแล้วท่อง เล่นๆก็ได้ บางทีก็ถาม ชอบดอกไม้ มั๊ย ชอบถ่ายรูปมั๊ย แถวบ้านเป็นยังไง
part แรก จะถามเกี่ยวกับตัวเรา ว่าเราทำอะไรที่ไหน ชอบอะไำร
part2 ให้เราพูด 2 นาที เกี่ยวกับหัวข้อที่เค้าให้ เช่น event ที่ประทับใจที่สุดในวัยเด็ก คนที่คุณคิดว่า เป็นคนที่มีความสุขที่ที่สุดที่คุณรู้จัก  อะไรทำนองนี้แหล่ะ เรื่องไม่ไกลตัว
part 3 ถามตอบ อันนี้จะเจาะลึกไป เช่น คุยเรื่อง happiness money job related to happiness

p.s. ถ้าเค้าถามแล้วไม่เข้าใจ ให้เค้า repeat คำถามก็ได้ หรือ ถามให้เค้า clarify ก็ได้ เวลาสอบอย่าไปเกร็ง examiner บางคนก็พูดชัด บางคนก็พูดเร็วมากๆ อันนี้แล้วแต่ดวง
บันทึกการเข้า
loveuk
BAND 5.0
**

น้ำใจ: +1/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 05:00:56 PM »

Speaking ฝึกพูดเองบ่อยๆครับ กับดูวีดีโอตัวอย่างในเวป ส่วน listening กับ reading ซื้อหนังสือของ Cambridge ESOL มาฝึกทำบ่อยคับ ผมใช้วิธีนี้เตรียมตัว 1 อาทิตย์แล้วไปสอบเป็นครั้งแรกได้ 7.0 ครับ บอกได้เลยว่าหนังสือให้ไอเดียเราได้เยอะ เพราะ reading ได้ 7.5 จาก 1 week นี่อะคับ
เอาใจช่วยๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: