ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ค้นหา

 
การค้นหาขั้นสูง

866 กระทู้ ใน 377 หัวข้อ- โดย 1020 สมาชิก - สมาชิกล่าสุด: ohm555
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาทำความรู้จักกับการสอบ IELTS กันหน่อยดีกว่า ^^  (อ่าน 13662 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นายไอเอล
เจ้าหน้าที่ไอเอล
BAND 8.5
*****

น้ำใจ: +4/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 453


« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2010, 11:58:38 AM »

เดือนสิงหาคมแล้ว... เชื่อว่าน้องๆ น่าจะทยอยบินไปเรียนต่อกันตามลำดับ ถึงเวลาของน้องรุ่นใหม่
เข้ามาหาความรู้เกี่ยวกับการเตรียมสอบ IELTS มันคืออะไรกันน๊า การสอบนี่ ต้องเตรียมตัวอย่างไร
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

IELTS เป็นอีกปัญหาของหลาย ๆ คนที่อยากมาเรียนต่อ วันนี้มาทำความรู้จักกับมันกันดีกว่า (สำหรับคนที่รู้อยู่แล้ว ก็ช่วยเพิ่มเติมด้วยนะคับ)

ทั่วไป
- IELTS แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ใช้เวลาสอบ 2 ชั่วโมง 45 นาที
-IELTS มีรูปแบบการสอบแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1. Academic(สำหรับคนที่จะเรียนต่อ ทุกระดับการศึกษา) และ 2. General  Training(มีความแตกต่างในส่วน reading และ writing ซึ่งหลายคนบอกว่าง่ายกว่า...ใช้สำหรับสมัครงาน และขอวีซ่าบางประเภท)
- ข้อสอบ IELTSที่สอบในวันเดียวกันทั่วโลกเป็นชุดเดียวกัน (เพราะฉะนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าที่ไหนจะง่ายกว่า)
- ตัวแทนของ IELTS โดยตรง คือ British Council และ IDP
-สำหรับ คะแนน IELTSจะมีคะแนนเต็มที่ 9
-คะแนนจะออกหลังจากการสอบสองอาทิตย์
-ตามกฎใหม่แล้ว สามารถสมัครสอบได้เลยไม่ต้องรอสามเดือน

มาทำความรู้จัก 4 Parts กัน

Listening

- ใช้เวลาฟังประมาณ 30 นาที เขียนลงกระดาษคำตอบอีก 10 นาที
- พาร์ทนี้แบ่งเป็น 4 พาร์ทย่อย รวม 40 ข้อ
- ส่วนมากจะเริ่มจากง่ายไปหายาก
- พาร์ท แรกจะเป็นเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไปในชีวิตประจำวัน หรือการติดต่อแบบง่าย ๆ (ส่วนใหญ่เป็นจองทัวร์ไปเที่ยว, ย้ายบ้านใหม่, การนัดหมาย...เป็นบทสนทนาระหว่างคนสองคนขึ้นไป...การตอบส่วนใหญ่จะเป็นชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมลล์ ที่อยู่ หรือศัพท์พื้นฐานไม่ยาก...แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบเติมคำ)
-พาร์ทที่สอง จะเป็นคนเดียวพูด อาจเกี่ยวกับข่าว,เหตุการณ์ต่าง ๆ,ประสบการณ์ชีวิต ฯลฯ (ส่วนนี้อาจมีทั้งเติมคำและตัวเลือกผสมกัน)
-พา ร์ทที่สาม เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียน การทำงาน ฝึกงาน ฯลฯ (จะเป็นการสนทนาของบุคคลมากกว่าสองคน อาจมากถึงสี่คน) เช่น พูดถึงการทำรายงาน,การหางานหลังเรียนจบ
-พาร์ทสุดท้าย ยังคงเป็นแนววิชาการ ส่วนใหญ่จะเป็นคนพูดคนเดียวเกี่ยวกับเนื้อหาทางวิชาหารที่ไม่ยากนัก (ส่วนใหญ่คำตอบเป็นตัวเลือก)

เคล็บลับในส่วนนี้
- ดูแลเรื่องตัวใหญ่ เวลาเป็นชื่อคน ชื่อเมือง
- ถ้าเทปสะกดให้ต้องถูกต้องตามนั้น (ถ้าพูดลอย ๆ สะกดผิดยังคงได้คะแนน ถ้าอ่านออกมาเป็นตามเทปพูด)
- วิธีฝึกคือฟังข่าว,ดูหนัง(ปิดซับ),ฟังเพลง ภาษาอังกฤษ แล้วเขียนตาม
- ฟังเสียงจากตัวอย่างข้อสอบเก่าบ่อย ๆ ให้ชิน โดยเฉพาะสองพาร์ทหลัง พยายามเก็บรายละเอียดให้ได้ว่าเขาพูดเรื่องอะไร
- ระหว่างทำข้อสอบ...จำใจความอะไรได้ เขียนลงกระดาษคำถามไว้เรื่อย ๆ กันเหม่อลอย แล้วจะหลุดยาวไปเลย

Reading
- แบ่งออกเป็น 3 ส่วน รวมทั้งหมด 40 คำถาม ใช้เวลา 60 นาที
- จะเริ่มจากง่ายไปยากเช่นเดียวกับ listening
- ทั้งสามเรื่องจะเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป ที่เอามาจากบทความวิชาการ(ง่าย ๆ), หนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสาร
- ในสามเรื่อง อาจมีเรื่องที่ใส่กราฟ หรือรูปภาพ ประกอบบทความ ในส่วนที่บทความใช้ศัพท์เฉพาะที่ยากมาก ๆ
- พาร์ทนี้ต้องทำไปตอบไป เพราะไม่มีเวลาเพิ่มให้เหมือน listening

เคล็ดลับในส่วนนี้
- เริ่มจากอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ (วันละหัวข้อก็ยังดี)
- ดูหนังปิดเสียง อ่านศัพท์เอาแทน (เพื่อเรียนรู้ศัพท์ให้มาก ๆ)
- อ่านบทความภาษาอังกฤษมาก ๆ (อ่านผ่าน ๆ แล้วจับใจความก็พอ)
- จดศัพท์ใหม่ ๆ ทุกครั้งที่เจอ (การรู้ศัพท์มาก ๆ จะช่วยได้มาก ในพาร์ทนี้)
- เวลาทำข้อสอบ อย่าพยายามอ่านให้เข้าใจทุกประโยค
- ให้เริ่มจากอ่านคำถามก่อน แล้ววงไว้ว่า ต้องหาอะไรให้เจอบ้าง จากนั้นจึงไปหาคำตอบในเนื้อเรื่อง (ไม่งั้นไม่มีทางอ่านทัน)

Writing
- มีเวลาเขียนสองพาร์ทรวม 60 นาที
- ส่วนแรก 150 คำ(ต้องบังคับตัวเองให้ใช้เวลาส่วนนี้ 20 นาที) แล้วอีก 40 นาทีที่เหลือ กับ 250 คำของส่วนหลัง
- ส่วนแรกจะเป็นให้อธิบายกราฟ,ตาราง ฯลฯ ให้เขียนในรูปแบบรายงาน มีการเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่าง เขียนถึงตัวเลขที่มากที่สุด และน้อยที่สุด เวลาเริ่มต้น ให้เขียนว่า เป็นกราฟเกี่ยวกับอะไร ช่วงระหว่างปีอะไร มีแกน x,y ประกอบด้วยอะไรบ้าง และข้อมูลมาจากหน่วยงานไหน ก่อนจะเข้าสู่รายละเอียด ส่วนตอนสรุป ก็ให้เขียนว่าจุดเด่นที่แตกต่างของภาพคืออะไร  หรือ...
- อาจจะเป็นการอธิบายอธิบายการทำงานของวงจรอะไรซักอย่าง...ถ้าได้แบบนี้ ให้เขียนเรียงเป็น step 1,2,3... โดยขึ้นต้นว่า มันคือการทำงานของอะไร มีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง ก่อนจะเริ่มบอกรายละเอียด
- สำหรับ task 2 จะเป็นการเขียนรายงานอย่างง่าย 250 คำ เนื้อหาจะเกี่ยวกับหัวข้อทั่ว ๆ ไป เช่น ระบบการศึกษา, สิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่จะเป็นการให้แสดงความคิดเห็น หรือเปรียบเทียบระหว่างสองข้อมูลที่โจทย์ให้ เช่น ระบบการเรียนที่รร. กับการเรียนทางไกล เป็นต้น
- ทั้งสองพาร์ทในส่วน writing จะต้องถูกเขียนแบบภาษาวิชาการ มีรูปแบบที่ถูกต้อง

เคล็ดลับในส่วนนี้
- ส่วนกราฟ...อย่าพยายามเขียนถึงทุกอย่างในกราฟ...แบ่งออกเป็นสามส่วนง่าย ๆ...Intro ประมาณ 30 คำ เขียนว่าเป็นกราฟเกี่ยวกับอะไร (ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกราฟ)...เนื้อหา เขียนเปรียบเทียบ และจุดเด่นจุดด้อย (ประมาณ 100 คำ)...สรุป เน้นจุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดอีกครั้ง (ประมาณ 30 คำ)
- ส่วนที่สอง...เขียนไอเดียคร่าว ๆ ไว้ก่อนว่าจะเขียนอะไรบ้าง (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) ถ้าต้องเปรียบเทียบเรื่องอะไร 2 เรื่อง พยายามให้ความสำคัญทั้งสองส่วนพอ ๆ กัน บอกทั้งข้อดีและข้อเสียของทั้งสองอย่าง...intro ประมาณ 50 คำ เขียนกว้าง ๆ ว่าหัวข้อที่ได้สำคัญยังไง...เช่นตามหัวข้อ ตย. ก็เขียนว่าปัจจุบัน ระบบการเรียนทางไกลเริ่มใช้แพร่หลายในหลาย ๆ ประเทศ  Bla Bla...ในส่วนเนื้อหา อาจแบ่งเป็นสองย่อหน้าอีกครั้ง...อาจเขียนได้เป็น ข้อดีของทั้งสองระบบ...กับข้อเสียของทั้งสองระบบ หรือ เขียนถึงระบบแรกหนึ่งย่อหน้า...ระบบที่สองในอีกย่อหน้า (แล้วแต่ความถนัด)...ส่วนสรุป บอกตามความคิดเห็นของเราไปเลย ว่าคิดว่าระบบไหนดีกว่า เพราะอะไร...หรือไม่มีอะไรดีกว่ากัน เพราะอะไร (ต้องให้เหตุผลด้วยเสมอ)
- ฝึกเขียนทุกวัน (หรือบ่อยเท่าที่ทำได้) ส่วนกราฟ อาจท่องจำรูปแบบคร่าว ๆ ไปได้เลย
- ส่วนพาร์ทสอง ฝึกเขียนในหัวข้อต่าง ๆ กัน เพราะปัญหาของหลาย ๆ คน คือไม่รู้จะเขียนอะไรดี (เวลาฝึกอ่าน ลองเอาหัวข้อเหล่านั้นมาเขียนใความคิดตัวเองดูก็ได้)
- ต้องหาคนตรวจให้ (อันนี้สำคัญ...ยากที่จะทำเองได้) เมื่อมีคนแก้ให้ เอามาเขียนใหม่อีกครั้ง(อย่าขี้เกียจ) เพื่อให้สมองจำในแบบที่ถูกต้อง
- ถ้าไม่มั่นใจ อย่าพยายามใช้ศัพท์เฉพาะ (เพราะถ้ามันไปอยู่ผิดที่ ผิดวิธีใช้จะทำให้คะแนนลดลง)
- อย่าเขียนประโยคเดียวสั้น ๆ ทั้งเรื่อง ให้เขียนประโยคยาว ๆ โดยใช้ตัวเชื่อมต่าง ๆ ให้เป็น

Speaking
-ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที แบ่งออกเป็นสามส่วน
- ส่วนแรก เป็นการสนทนาทั่ว ๆ ไป เกี่ยวกับครอบครัว การเรียน การทำงาน ฯลฯ (ประมาณ 5 นาที)
- ส่วนที่สอง จะมีหัวข้อมาให้...ให้เวลาเตรียมตัว 1 นาที และให้พูดตามหัวข้อนั้นประมาณ 2 นาที (ไม่ต้องกลัวว่าถ้าพูดเกินจะถูกหักคะแนน...คนสัมภาษณ์จะบอกเองว่า พอก่อน) อย่าพยายามพูดน้อยกว่า 1 นาทีครึ่ง (อันนี้อาจถูกหักคะแนนได้)
- ส่วนสุดท้าย เป็นการพูดรายละเอียด เกี่ยวกับหัวข้อที่เราเพิ่งพูดจบไป เพื่อให้เราได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนั้น ๆ
- คะแนนในส่วนนี้มาจาก Fluency, Grammatical, Pronunciation, Lexical resource

เคล็ดลับในส่วนนี้
- พยายามพูดกับตัวเอง หรือคนรอบข้างเป็นภาษาอังกฤษ (จะทำให้ระบบสมองคล่องขึ้น ไม่ต้องเสียเวลานึก)
- ลองพูดตาม topic ต่าง ๆ (หาได้จากในเว็บบอร์ด และใน Blog ของอาจารย์) แล้วเอาเรื่องของเราไปประยุกต์ดู
- เวลาสอบให้ทำตัวตามสบาย อย่าเกร็ง พูดให้เป็นธรรมชาติ (คิดซะว่าไม่ได้ไปสอบ หรือสอบกับอาจารย์ในสถาบัน แลบลิ้น)
- อย่าเกร็งเรื่องแกรมม่ามาก คะแนนสำคัญมาจากการสื่อสารที่รู้เรื่อง เข้าใจมากกว่า
- ถ้าฟังคำถามไม่เข้าใจ ให้ถามคนสัมภาษณ์เลย อย่าพยายามตอบทั้งที่ไม่รู้ว่าเค้าทำอะไร
- ถ้าฟังไม่ทันที่เขาพูด ขอให้เขาช่วยพูดช้าลงไปเลย อย่ากลัวว่าจะถูกหักคะแนน (ดีกว่าฟังไม่ทันตอบไม่ได้ไปเลย)

โดยรวม

- ตั้งใจอ่านคำสั่งให้ดีทุกพาร์ท
- เปิดดูให้หมดว่าพาร์ทไหนมีข้อสอบกี่ข้อ ต้องตอบกี่คำถามในส่วนนั้น ๆ
- ไปให้ก่อนเวลา จะได้ไม่เหนื่อย ไม่ตื่นเต้น
- แบ่งเวลาในแต่ละส่วนให้ดี (โดยเฉพาะ reading and writing) อย่าเสียเวลากับใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ข้อไหนตอบไม่ได้ วงไว้ แล้วข้ามไปก่อนเลย
- พยายามเขียนให้จบท้งสองเรื่อง (มีส่วนต่อคะแนนอย่างมาก)
- ที่เหลือ...สู้สู้นะครับ

ปล.ส่วนหนึ่งแปลมาจาก 101 Helpful Hints for IELTS, เพิ่มเติมจาก IELTS Examiner ครับ
บันทึกการเข้า
Sasitarn
BAND 4.0
*

น้ำใจ: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2010, 03:19:49 PM »

ขอบคุณนะคะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: