ต่อไป »

[นาโน]

Academic Module นี่ หมายความว่า ต้องเขียนแบบไหนอ่ะ
ถ้าเน้นๆ ภาษาเขียนจะได้คะแนนดีกว่าจริงหรือเปล่า?
แล้วถ้าเขียนไม่จบ ไม่ครบตามจำนวนคำที่กำหนดไว้ เค้าจะตรวจมั๊ยคะ?

[Ajarn Bee]

สวัสดีค่ะ คุณนาโน
ขอตอบคำถามเป็นข้อๆ ตามนี้นะคะ

1. “Academic Module นี่ หมายความว่า ต้องเขียนแบบไหนอ่ะ”

    ก่อนอื่น ครูขอเริ่มด้วยการอธิบายโครงสร้างหลักของการสอบนะคะ
         ข้อสอบ IELTS มีประเภทการสอบ 2 ประเภท คือ
1) ประเภท Academic (เชิงวิชาการ) ใช้สำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญา หรือสำหรับการฝึกอบรมบางชนิด
2) ประเภท General Training ใช้สำหรับการสมัครงานทั่วๆ ไป หรือการขอวีซ่า work permit เป็นต้น
การสอบทั้งสองประเภท ประกอบไปด้วยข้อสอบ 4 ส่วน คือ
1) Listening     30 นาที
2) Reading     1 ชั่วโมง
3) Writing     1 ชั่วโมง
4) Speaking    11-14 นาที
คุณ นาโน ถามเน้นมาในเรื่องของ ข้อสอบส่วนของการเขียนเชิงวิชาการ ซึ่งเป็นส่วนที่นักเรียนส่วนใหญ่มักจะหนักใจมากเป็นพิเศษจริงๆ ดังนั้น ครูจะขออธิบายเกี่ยวกับข้อสอบ Writing (Academic Module) ดังนี้นะคะ

ในข้อสอบส่วนการเขียนเชิงวิชาการ ผู้สอบต้องเขียนงาน 2 ชิ้น ได้แก่
Task 1     เป็นการเขียนอธิบาย Graph, Chart, Table หรือ Diagram
โดยต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำ ภายในเวลา 20 นาที

Task 2     เป็นการเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น อภิปรายเหตุผล ในประเด็นต่างๆ
โดยต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ ภายในเวลา 40 นาที

     การสอบส่วนข้อเขียนนี้ ผู้สอบควรมีความคุ้นเคยกับโจทย์พอสมควร ถึงจะทราบว่าควรเขียนออกมาในรูปแบบใด จึงจะได้คะแนนตามที่ต้องการ การฝึกฝนการเขียน ในหัวข้อต่างๆ จึงจำเป็นมาก ไม่อย่างนั้น ต่อให้เป็นผู้ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษดีพอตัว ก็ยากที่จะเขียนออกมาได้ดี ในเวลาที่จำกัดแบบนี้ ซึ่งครูอาจไม่สามารถลงในรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับรูปแบบการเขียน แต่จะยกตัวอย่างให้ฟังละกันนะคะ
     อย่างการเขียนอธิบาย Graph, Chart, Table หรือ Diagram ของ Task 1 ผู้สอบควรเลือกประเด็นที่น่าสนในจากในกราฟนั้นๆ ออกมาเขียน เช่น จุดที่เปรียบเทียบความเหมือน ความแตกต่างกัน เป็นต้น ไม่ใช่เขียนเรียงลำดับไปแบบทื่อๆ ค่ะ

2. “ถ้าเน้นๆ ภาษาเขียนจะได้คะแนนดีกว่าจริงหรือเปล่า?”

     สำหรับคำถามข้อนี้ ก็เกี่ยวข้องกับข้อ 1 โดยตรง
     คำตอบ ก็คือ เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ เรากำลังสอบเขียนเชิงวิชาการอยู่ ชื่อก็บอกชัดเลย ว่าควรต้องใช้ภาษาเขียน ไม่ใช่ภาษาพูด ภาษาเขียน ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเรื่องไวยากรณ์อย่างเดียวนะคะ นั่นคือ ความยากเลยล่ะ
     ความแตกต่างของภาษาเขียนและภาษาพูดนี้ มีหลายด้าน จะยกตัวอย่างประโยคให้เห็นโดยสังเขป ตามนี้นะคะ
    - In my opinion, kids should have more chance to play with their dad and mom.
    - In many developing countries, some people don’t realise the importance of education because the government doesn’t give them enough information.
ในด้านไวยากรณ์สองประโยคนี้ ไม่มีอะไรผิดค่ะ แต่จะโดนหักคะแนน ในเรื่องของ informality ซึ่งจะแก้ไขได้ ดังนี้
    - In my opinion, children should have more chance to play with their father and mother.
    - In many developing countries, some people do not realise the importance of education, because the government does not give them enough information.

3. “แล้วถ้าเขียนไม่จบ ไม่ครบตามจำนวนคำที่กำหนดไว้ เค้าจะตรวจมั๊ยคะ?”

     เป็นคำถามซีรี่ส์มาเลยนะคะเนี่ย
     คำตอบ คือ ตรวจค่ะ แต่ว่าก็ต้องโดนหักคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย เพราะส่วนใหญ่แล้ว ถ้าคุณเขียนได้จำนวนคำต่ำกว่าที่กำหนด จะได้คะแนนเพียง Band 5 เท่านั้น
     ครูจึงเน้นย้ำกับนักเรียนเสมอ เกี่ยวกับเรื่อง time management จะวางแผนอย่างไรให้เขียนทัน ไม่อยากให้โดนหักคะแนนตรงจุดนี้เลยจริงๆ ค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่เรารู้ดีอยู่แท้ๆ เพียงแต่ต้องการการฝึกฝน และความมีสติในห้องสอบ เพื่อคุมเวลาให้อยู่หมัด
   
Hope it helps na ka.  :->